Yoram Cohenหัวหน้าหน่วยชิน เบทวันที่ 8 กรกฎาคม 2557
กองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) เปิดฉาก
ปฏิบัติการโพรเทกทิฟเอดจ์ (
อังกฤษ: Operation Protective Edge,
ฮีบรู: מִבְצָע צוּק אֵיתָן, ปฏิบัติการปกป้องขอบแดน) ใน
ฉนวนกาซาที่
ฮะมาสควบคุม จากนั้น การโจมตีทางอากาศของอิสราเอลและการโจมตีด้วยจรวดของปาเลสไตน์นานเจ็ดสัปดาห์ ตลอดจนการระดมยิงและการต่อสู้ในการบุกครองภาคพื้นดินและการโจมตีผ่านอุโมงค์ข้ามชายแดน ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 2,100 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวปาเลสไตน์
[8][9][14][15]ความมุ่งหมายที่แถลงของปฏิบัติการของอิสราเอลคือหยุดการโจมตีด้วยจรวดจากกาซาสู่อิสราเอล ซึ่งกลุ่มแยกมิใช่ฮะมาสเริ่มต้นหลังการปราบปรามฮะมาสในเวสต์แบงก์ของอิสราเอล อันเนื่องจากการลักพาตัวและฆ่าวัยรุ่นชาวอิสราเอล 3 คนโดยสมาชิกฮะมาส
[16] และฮะมาสเองเริ่มหลังการโจมตีทางอากาศในวันที่ 6 กรกฎาคมซึ่งฆ่านักรบฮะมาสเจ็ดคนในข่านยูนิส (Khan Yunis)
[16][17][18] ในวันที่ 17 กรกฎาคม ปฏิบัติการขยายผลสู่การบุกครองภาคพื้นดินโดยมีความมุ่งหมายที่แถลงเพื่อทำลายระบบอุโมงค์ของกาซา
[19]ในวันที่ 26 สิงหาคม IDF รายงานว่า ฮะมาส อิสลามญิฮาดและกลุ่มนักรบอื่นยิงจรวดและปืนครก 4,500 ลูกจากกาซาสู่อิสราเอล
[20][21] ขณะที่ IDF โจมตีเป้าหมาย 5,263 แห่งในกาซา มีอุโมงค์ที่ทราบถูกทำลายอย่างน้อย 34 แห่ง
[20] และสองในสามของคลังจรวด 10,000 แห่งของฮะมาสถูกใช้หมดหรือถูกทำลาย
[22][23] กระทรวงมหาดไทยปาเลสไตน์รายงานว่า จนถึงวันที่ 22 สิงหาคม มีระเบิดถูกทิ้งใส่กาซา 20,000 ตัน
[24][25] การหยุดยิงหลายครั้งล้มเหลวหรือหมดอายุ
[26] ในวันที่ 26 สิงหาคม มีการประกาศหยุดยิงปลายเปิด
[27]ชาวกาซาเสียชีวิตระหว่าง 2,000
[28] ถึง 2,143 คน
[13] (รวมเด็ก 495–578 คน)
[8][9] และได้รับบาดเจ็บระหว่าง 10,895
[29] ถึง 11,100 คน
[9] ขณะที่ทหาร IDF 66 นาย พลเรือนอิสราเอล 5 คน และพลเรือนไทย 1 คนเสียชีวิต
[8] และทหาร IDF 450 นายและพลเรือนอิสราเอล 80 คนได้รับบาดเจ็บ
[11] กระทรวงสาธารณสุขกาซา สหประชาชาติและกลุ่มสิทธิมนุษยชนว่า ความสูญเสียของปาเลสไตน์ 70–75% เป็นพลเรือน
[8][13][29] อิสราเอลแถลงว่า 50% เป็นพลเรือน
[28][30] วันที่ 5 สิงหาคม
สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติแถลงว่า ชาวปาเลสไตน์ 520,000 คนในฉนวนกาซา (ประมาณ 30% ของประชากร) อาจพลัดถิ่น ในจำนวนนี้ 485,000 คนต้องการความช่วยเหลืออาหารฉุกเฉิน
[31] และ 273,000 คนหลบภัยในโรงเรียนที่สหประชาชาติดำเนินการ 90 แห่ง
[32] บ้านกาซา 17,200 หลังถูกทำลายทั้งหมดหรือได้รับบความเสียหายอย่างหนัก 37,500 หลังได้รับความเสียหายแต่ยังอาศัยได้
[8] ในอิสราเอลมีพลเรือนประมาณ 5,000
[33] ถึง 8,000 คน
[34]หนีจากบ้านเนื่องจากภัยคุกคามจากการโจมตีด้วยจรวดและปืนครก
[33]